ผู้สนับสนุน..
กรณีศึกษา บริษัทไทยสำเร็จในการตัดต่อยีน / โดย ลงทุนแมน
ไม่นานมานี้ มีข่าวใหญ่ที่ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จีนทำการปรับปรุงตัดต่อยีนตัวอ่อนมนุษย์เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ HIV
เทคโนโลยีที่ใช้ คือ การปรับแต่งจีโนม
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปลดล็อกการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์การแพทย์
รู้หรือไม่ว่า ใน 1 ปีของประเทศไทย
มีผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6,900 คน
และเด็กเกิดใหม่ที่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย 12,125 คน
ซึ่งคนไข้ที่เป็นโรคเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อที่จะไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นกับร่างกาย และทำให้การใช้ชีวิตประจำวันต้องเปลี่ยนไป
แต่ขณะนี้เทคโนโลยีของการตัดต่อยีนกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในความหวังใหม่ในการทำให้
คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันที่เหมือนกับคนทั่วไปได้
แล้วถ้าการตัดต่อยีนเป็นความหวังของการรักษาโรค
ตอนนี้มีบริษัทไทยไหนบ้างที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้?
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอส. เอส. แมนูแฟคเจอริ่ง ผู้ผลิตเวชสำอางภายใต้แบรนด์ “ดร.สมชาย” ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ได้ประกาศความสำเร็จในวงการตัดต่อยีนระดับสากล
หลังจากที่เมื่อ 8 ปีก่อน บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการวิจัยตัดต่อยีน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคเอดส์และสามารถทำได้เสร็จสมบูรณ์เมื่อ 3 ปีก่อน
แม้ว่าจะสำเร็จแล้วแต่แพทย์หญิง อรอินท์ เรืองวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท ก็ไม่ได้หยุดที่จะทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อที่จะรักษาโรคอื่นๆ ด้วยการตัดต่อยีน
ในปีที่แล้ว บริษัทสามารถแก้ไขยีนที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการสร้างเม็ดเลือดในโรคธาลัสซีเมียด้วยเทคโนโลยีของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถทำสำเร็จ
ผลงานวิจัยเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติและถูกเชิญให้ไปนำเสนอในการประชุมต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้ไปแสดงในงาน BIT's 16th Annual Congress of International Drug Discovery Science and Technology-2018 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
พร้อมกับได้รับการทาบทามให้ไปแสดงผลงานวิจัยต่อเนื่องที่ประเทศจีน ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ อีกด้วย
เป็นเรื่องน่ายินดีที่บริษัทไทยเรามีเทคโนโลยีการตัดต่อยีนที่ทันสมัยซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล
ปัจจุบันทีมวิจัยดีพเทคโนโลยีของดร.สมชายกำลังใช้ CRISPR/Cas9 เพื่อพัฒนาการสร้างโปรตีนมนุษย์ในเซลล์ไก่
ไม่แน่ว่าวันหนึ่งในอนาคต ไข่ไก่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน อาจกลายเป็นโรงงานผลิตยาชั้นเลิศให้กับมนุษย์
และที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็น
การมอบความหวังในการรักษาโรคเหล่านี้ ให้กับคนไข้จำนวนมากในประเทศไทย นั่นเอง..